
หัวจ่ายแอร์คืออะไร? มีกี่ประเภท? เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับพื้นที่?
ประเภทของหัวจ่ายแอร์และการเลือกใช้ให้เหมาะกับพื้นที่
หัวจ่ายแอร์คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
หัวจ่ายแอร์ (Air Diffuser) เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ที่ปลายท่อส่งลมของระบบปรับอากาศ ทำหน้าที่กระจายลมเย็นที่ถูกผลิตจากเครื่องปรับอากาศให้กระจายไปทั่วพื้นที่อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้หัวจ่ายแอร์ที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการควบคุมทิศทางลม อุณหภูมิ และความเร็วลมในพื้นที่นั้นๆ
การทำงานของหัวจ่ายแอร์นั้นไม่เพียงแค่ปล่อยลมเย็นออกมาเท่านั้น แต่ยังช่วยผสมอากาศเย็นกับอากาศในห้อง ทำให้ลดความรู้สึกไม่สบายจากการที่ลมปะทะตัวโดยตรง อีกทั้งยังช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดจากลมที่ไหลผ่านอีกด้วย
ประเภทของหัวจ่ายแอร์ (Air Diffuser) และการใช้งาน
หัวจ่ายแอร์มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและรูปแบบการกระจายลมที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก
1. หัวจ่ายแอร์แบบสี่เหลี่ยม (Square Diffuser)
- ลักษณะ: มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า
- การกระจายลม: ส่วนใหญ่จะกระจายลมออกไปได้ 1-4 ทิศทาง นิยมใช้ติดตั้งบนฝ้าเพดาน
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับสำนักงาน ร้านค้า หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั่วไปที่ต้องการการกระจายลมเย็นอย่างทั่วถึง
2. หัวจ่ายแอร์แบบกลม (Round Diffuser)
- ลักษณะ: มีรูปร่างเป็นวงกลม
- การกระจายลม: กระจายลมแบบ 360 องศา หรือแบบหมุนวน (Swirl) ช่วยให้ลมเย็นผสมกับอากาศในห้องได้ดี
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีเพดานสูง เช่น โชว์รูมสินค้า โรงงาน หรือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ต้องการการกระจายลมอย่างรวดเร็ว
3. หัวจ่ายแอร์แบบเส้นตรง (Linear Diffuser)
- ลักษณะ: มีรูปร่างเป็นเส้นยาว มีช่องสำหรับปล่อยลม
- การกระจายลม: กระจายลมในแนวเส้นตรง สามารถปรับทิศทางการไหลของลมได้
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามและกลมกลืนกับดีไซน์ของฝ้าเพดาน เช่น โรงแรม ห้องประชุม หรืออาคารที่ต้องการความเรียบหรู
4. หัวจ่ายแอร์แบบเจ็ต (Jet Diffuser)
- ลักษณะ: มีลักษณะคล้ายหัวฉีด สามารถปรับทิศทางของลมได้
- การกระจายลม: พ่นลมได้ไกลและพุ่งเป็นแนว เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการส่งลมไปยังจุดที่อยู่ไกลออกไป
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูงมาก เช่น สนามบิน โรงละคร หรือห้างสรรพสินค้า
5. หัวจ่ายแอร์แบบช่องลม (Grille)
- ลักษณะ: เป็นแผ่นตะแกรงที่มีช่องสำหรับระบายอากาศ
- การใช้งาน: นอกจากใช้เป็นช่องจ่ายลมแล้ว ยังนิยมใช้เป็นช่องสำหรับลมกลับ (Return Air Grille) เพื่อดึงอากาศจากในห้องกลับไปที่เครื่องปรับอากาศ
เลือกหัวจ่ายแอร์ให้เหมาะกับพื้นที่
การเลือกใช้หัวจ่ายแอร์ที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศและประหยัดพลังงานได้
- พื้นที่สำนักงาน: ควรเลือกใช้ หัวจ่ายแอร์แบบสี่เหลี่ยม หรือ แบบเส้นตรง เพื่อกระจายลมอย่างทั่วถึงและมีดีไซน์ที่เข้ากับฝ้าเพดาน
- พื้นที่โชว์รูมหรือห้างสรรพสินค้า: หัวจ่ายแอร์แบบกลม หรือ แบบเจ็ต เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถส่งลมได้ไกลและครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่
- พื้นที่ที่ต้องการความสวยงาม: หัวจ่ายแอร์แบบเส้นตรง สามารถติดตั้งให้กลมกลืนกับสถาปัตยกรรมของอาคารได้เป็นอย่างดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหัวจ่ายแอร์
Q1: หัวจ่ายแอร์จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน?
A: ควรทำความสะอาดอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อสังเกตเห็นฝุ่นสะสม เพื่อป้องกันการอุดตันและรักษาประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
Q2: หัวจ่ายแอร์มีผลต่อการประหยัดพลังงานหรือไม่?
A: มีผลอย่างมาก การเลือกใช้หัวจ่ายแอร์ที่เหมาะสมช่วยให้การกระจายลมเย็นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้
Q3: สามารถติดตั้งหัวจ่ายแอร์เองได้หรือไม่?
A: การติดตั้งหัวจ่ายแอร์ควรทำโดยช่างผู้ชำนาญการ เพื่อให้มั่นใจว่าการติดตั้งถูกวิธีและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบปรับอากาศโดยรวม
Q4: ช่องลมกลับ (Return Air Grille) แตกต่างจากหัวจ่ายลม (Supply Air Diffuser) อย่างไร?
A: หัวจ่ายลมทำหน้าที่ปล่อยลมเย็นเข้าไปในห้อง ส่วนช่องลมกลับทำหน้าที่ดูดอากาศจากในห้องกลับไปที่เครื่องปรับอากาศเพื่อนำไปปรับอุณหภูมิใหม่
ให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบปรับอากาศโดยผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและติดตั้งระบบปรับอากาศ รวมถึงการเลือกใช้ หัวจ่ายแอร์ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของคุณ บริษัท ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด พร้อมให้คำปรึกษาและบริการอย่างครบวงจร เรามีทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งและดูแลรักษาระบบปรับอากาศเพื่อให้พื้นที่ของคุณเย็นสบายและประหยัดพลังงานได้อย่างแท้จริง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หัวจ่ายแอร์ ท่อเฟล็กซ์
ติดต่อ บริษัท ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
เลขที่ 27/18 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12150
โทรศัพท์ 0-2101-3846-7, 0-2101-3605
สายด่วน 095-958-2310, 085-482-2861-2
Email: sapaengineer2@gmail.com, salesapa2@gmail.com, salesapa5@gmail.com



